บทที่ 1 ความปลอดภัยทั่วไปในห้องปฏิบัติการ

ข้อปฏิบัติทั่วไปในการปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ


  • การเตรียมสารเคมีพวก กรด ด่าง หรือสารระเหย ควรทำในตู้ดูดควัน
  • เทกรดลงน้ำ  ห้ามเทน้ำลงกรด
  • ไม่ใช้จุกแก้ว กับขวดบรรจุสารละลายด่าง เพราะจุกจะติดกับขวดจนเปิดไม่ได้
  • ไม่ใช้จุกยางกับขวดบรรจุตัวทำละลายอินทรีย์ เช่น แอลกอฮอล์ อะซีโตน
  • ห้ามใช้เปลวไฟในการให้ความร้อนแก่ของเหลวไวไฟ หรือในขบวนการกลั่น
  • ให้ความระมัดระวังในการจุดไฟในห้องปฏิบัติการ ดับไฟทันทีเมื่อเลิกใช้งาน ไม่ควรปล่อยให้ไฟติดทิ้งไว้โดยไม่มีคนดู
  • ก่อนที่จะทำการจุดไฟ ควรย้ายวัสดุไวไฟออกจากบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ควรแน่ใจว่าได้ปิดภาชนะที่บรรจุของเหลวไวไฟอย่างดีแล้ว
  • ควรเก็บสารเคมีไวไฟในตู้สำหรับเก็บสารเคมีไวไฟโดยเฉพาะ
  • หลีกเลี่ยงการสูดดมไอระเหยของสารเคมี ห้ามทดสอบชนิดของสารเคมีโดยยกดมกลิ่นโดยตรงอย่างเด็ดขาด
  • การดูดสารละลายโดยใช้ปิเป็ต ห้ามใช้ปากดูด ให้ใช้ลูกยาง
  • ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ
  • ในกรณีที่มีสารระเหยไวไฟ (Volatile flammable material) ควรใช้ตู้ดูดควันในการถ่ายเท  ผสม หรือ ให้ความร้อนสารเคมี
  • กรณีสามารถเลือกใช้สารเคมีได้  ควรเลือกใช้สารเคมี ที่มีความเป็นพิษน้อยที่สุด ใน ปริมาณน้อยที่สุดเท่าที่พึงกระทำได้
  • อ่านคู่มือ และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อต้องปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับสารก่อมะเร็ง
  • หากผิวหนังถูกสัมผัสโดยสารเคมี ต้องล้างออกโดยทันทีด้วยน้ำประปา หรือน้ำสะอาด อย่างน้อย 15 นาที
  • เมื่อเลิกปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ ควรล้างมือด้วยสบู่ และน้ำสะอาด
  • ห้ามดื่ม  กิน  เคี้ยวหมากฝรั่ง สูบบุหรี่ หรือ แม้แต่ทาเครื่องสำอางในห้องปฏิบัติการ
  • ห้ามนำเครื่องดื่ม อาหาร บุหรี่ และเครื่องสำอางเข้ามาเก็บในบริเวณห้องปฏิบัติการ
  • ห้ามใช้เครื่องไมโครเวฟในห้องปฏิบัติการเพื่อเตรียมกาแฟ  อาหาร
  • ห้ามใช้ตู้เย็นในห้องปฏิบัติการเพื่อเก็บอาหาร

วิธีการจัดเก็บและรักษาสารเคมีที่เหมาะสม

วิธีการจัดเก็บและรักษาสารเคมีที่เหมาะสม ควรดำเนินการดังนี้

  • ต้องมีการตรวจสอบ ประเมินอุปกรณ์ที่ใช้ เพื่อความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ
  • ต้องมั่นใจว่าสารเคมี ทุกภาชนะบรรจุ มีฉลากที่ถูกต้องสมบูรณ์ และมีสัญลักษณ์เตือนภัยกำกับ
  • ต้องศึกษาสมบัติของสารเคมีที่จะเก็บรักษา จากนั้นจึงทำการจัดแบ่ง ประเภทให้ถูกต้อง ต้องมีการตรวจสอบ บริเวณที่เก็บรักษาอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากสารเคมีบางชนิด สลายตัวช้า ๆ ตลอดเวลาการเก็บ อาจต้องมีสภาวะพิเศษ เช่น สารที่มี Halomethyl group สลายตัวให้แก๊ส Halogen halide เมื่อมีความชื้น หรือสัมผัสกับสนิม ซึ่งหากมีความดันของแก๊สเพิ่มขึ้น ถึงจุดหนึ่ง อาจทำให้ภาชนะบรรจุระเบิดได้
  • ระวังเป็นพิเศษสำหรับสาร ที่ต้องเก็บแยกจากกันโดยเด็ดขาด โดยป้องกันไม่ให้มีการเก็บสาร ที่อาจทำปฏิกิริยารุนแรง เมื่อสัมผัส หรือผสมกันไว้ด้วยกัน หรือใกล้กัน เช่นสาร Cyanides ควรเก็บแยกไว้ต่างหาก อย่างปลอดภัย ไม่ให้มีโอกาสสัมผัสกับกรด
  • ภาชนะบรรจุสารเคมีที่เก็บรักษา จะต้องมีฉลาดระบุวันที่รับ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับผิดชอบการใช้ และเก็บรักษา
  • ต้องไม่มีสารเคมี ที่ไม่ปรากฏในรายการเก็บรักษา ที่เป็นปัจจุบัน อยู่ในห้องเก็บสารเคมี สารเคมีที่หมดอายุแล้ว ต้องเอาออกจาก บริเวณที่จัดเก็บ เพื่อนำไปกำจัดทิ้งโดยเร็ว
  • สารเคมีใดที่ไม่ปรากฏว่า มีการซื้อ หรือเบิกจ่ายเป็นเวลานาน ควรตัดออกจารายการ สารเคมีที่เก็บรักษาเพื่อใช้งาน และแยกออก เพื่อกำจัดตามวิธีที่เหมาะสมต่อไป

วิธีการจัดเก็บสำหรับสารบางประเภท


  • ของเหลวไวไฟ ที่บรรจุภาชนะขนาดใหญ่ ควรจัดหาสถานที่เก็บรวม ซึ่งควรแยกไว้ห่างจากตัวอาคาร ห้องปฏิบัติการ ถ้าต้องเก็บภายในอาคาร ห้องปฏิบัติการ ควรมีห้องเก็บพิเศษ ซึ่งผนังห้องเพดาน ทำด้วยวัสดุที่กันไฟได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ประตูห้องเก็บ ต้องเป็นชนิดปิดได้เอง และทำด้วยวัสดุพิเศษ จัดตำแหน่งห้องเก็บ ไว้ให้สามารถดับเพลิง ได้สะดวก ไม่ควรอยู่บริเวณกลางตึก บนหลักคาตึก หรือชั้นใต้ดิน เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม อันตรายจากไฟไหม้ กรณีจัดเก็บสารเคมีไวไฟ ในถังขนาด 55 แกลลอนควรวางบนชั้นโลหะที่ต่อสารดินป้องกันการสะสมของไฟฟ้าสถิตซึ่งอาจทำให้เกิดประกายไฟและทำให้ของเหลวติดไฟได้กรณีที่มีแดดส่องถึงจะต้องเปลี่ยนฝาปิดให้เป็นชนิดที่ลดความดันภายในได้เพื่อป้องกันการเกิดความดันไอสะสมเป็นปริมาณมาก
  • สารพิษ และสารอันตราย ควรแยกออกจากสารประเภทอื่น ๆ และเก็บไว้ในที่อุณหภูมิต่ำมีการระบายอากาศดีไม่ถูกแสงความร้อนกรดตัวออกซิไดส์หรือความชื้นการจัดเก็บขวดสารเคมีที่เปิดแล้วในห้องเก็บสารเคมีจะต้องทำการผนึกอย่างดีและเก็บในที่ซึ่งมีระบบระบายอากาศเฉพาะบริเวณ
  • ปรอทและสารประกอบปรอท ให้เก็บในภาชนะปิดสนิทสองชั้น ภาชนะบรรจุ ควรวางในบริเวณ ที่มีการระบายอากาศดี การถ่ายปรอทออกจากภาชนะ ควรทำให้ hoodมีถาดเคลือบหรือใช้ถาดพลาสติกรองรับ
  • สารเคมีที่ทำปฏิกิริยารุนแรงกับน้ำ เช่น ทำให้เกิดความร้อน ติดไฟ เกิดแก๊สที่ทำให้เกิดแรงระเบิดได้ ต้องเก็บในสถานที่ ซึ่งสร้างด้วยวัสดุทนไฟ ป้องกันไม่ให้มี การสัมผัสกับน้ำโดยเด็ดขาด
  • ถังแก๊สควรเก็บรักษาในสถานที่ ซึ่งมีการระบายอากาศดี ห้องเก็บก่อสร้าง ด้วยวัสดุทนไฟ ถังบรรจุแก๊สบางชนิด อาจเก็บไว้ภายนอกอาคารได้ โดยป้องกันจากการกัดกร่อน ของก้นถัง ควรเป็นที่ซึ่ง ปราศจากสารเคมี และไอสารเคมี โดยเฉพาะที่มี ฤทธิ์กัดกร่อนโลหะ ไม่ควรเก็บถังแก๊ส ไว้ใกล้ที่ซึ่งมีการจุดไฟ หรือที่ซึ่งอาจมีสิ่งของน้ำหนักมาก ตกลงมากระทบ หรือชนให้ถังล้มได้ เช่นบริเวณบันได ทางเดิน บริเวณที่เก็บรักษา ควรมีป้ายชื่อ แสดงชนิดแก๊สติดไว้ แต่ละตำแหน่ง ต้องหลีกเลี่ยง การเก็บรักษาถังแก๊สไว้ ในที่ซึ่งมีอุณหภูมิสูง ถ้าต้องเก็บแก๊สหลายชนิด ไว้บริเวณเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วัยรุ่นอังกฤษตาบอด หลังกินแต่มันฝรั่งทอดเป็นอาหารหลายปี

กรณีข้างต้นเป็นรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Annals of Internal Medicine โดยจักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลรักษาโรคตาเมืองบริสตอลระบุว่า วัยร...